Baroque
art
The
term "Baroque" describes
a style of 17th-century European
art. Rome, the centre of the
Catholic church, was its birthplace. During
the 16th century, the Christian church split
into Roman Catholic and Protestant factions. By the 17th century, the Catholic
church was using art to spread its teachings. To appeal to the viewer, it promoted a
style of art that was theatrical and emotional. Painters were encouraged to use light
and shade for dramatic contrasts, sculptors to show figures in dynamic poses. To achieve these effects, artists had to develop
great technical skills.
|
ศิลปะบารอก
คำว่า
"บารอก" อธิบายถึงรูปแบบศิลปะยุโรปในศตวรรษที่ 17 โรมซึ่งเป็นศูนย์กลางของนิกายคาทอลิกเป็นที่กำเนิดของศิลปะนี้ ในช่วงศตวรรษที่
16 ศาสนาคริสต์ถูกแบ่งออกเป็นนิกายโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์
ประมาณศตวรรษที่ 17 นิกายคาทอลิกกำลังใช้ศิลปะเพื่อเผยแพร่คำสอน เพื่อดึงดูดนักวิจารณ์
นิกายคาทอลิกจึงได้ให้ความสำคัญกับรูปแบบของศิลปะที่เกี่ยวกับละครและเร้าอารมณ์ จิตรกรได้รับการสนับสนุนให้ใช้แสงและเงาเพื่อตัดความแตกต่างได้อย่างทึ่ง
ประติมากรก็ได้รับการสนับสนุนให้ใช้แสงและเงาเพื่อแสดงรูปปั้นในท่าทางที่มีชีวิตชีวา
เพื่อให้บรรลุผลเหล่านี้ ศิลปินต้องพัฒนาทักษะด้านเทคนิคที่ยอดเยี่ยม
|
||||
|
Caravaggio, The Calling of St. Matthew, c. 1598-99
|
||||
Bernini
The Italian painter, sculptor, and architect Gianlorenzo
Bernini (1598-1680) was
an outstanding influence on Baroque
art. He had an exceptional ability to convey great emotion and drama in stone, designed to inspire those who saw his work to greater faith. This sculpture depicts the vision of St. Teresa, in which an
angel pierced her with an arrow.
|
แบร์นินี
จานโลเรนโซ แบร์นินี จิตรกร
ปฏิมากรและสถาปนิกชาวอิตาลี (มีชีวิตระหว่าง ค.ศ. 1598 – 1680 = พ.ศ. 2141 –
2223 อายุ 82 ปี) เป็นผู้มีอิทธิพลที่โดดเด่นด้านศิลปะบารอก เขามีความสามารถอันยอดเยี่ยมในการถ่ายทอดอารมณ์และบทละครที่ดีเลิศในก้อนหิน
เขาจะออกแบบเพื่อให้ก้อนหินเหล่านั้นสร้างแรงบันดาลให้ใจให้กับผู้พบเห็นผลงานของเขาก่อให้เกิดศรัทธาอันยิ่งใหญ่
ประติมากรรมชิ้นนี้พรรณนาภาพของนักบุญเทเรซาตรงมุมที่หล่อนถูกแทงด้วยลูกศร
|
Light and shade
The Italian painter
Michelangelo Caravaggio (1573-1610) shows the moment when Christ calls Matthew
to become a disciple. A ray of light illuminates
Matthew, but Christ is hidden by shadow.
|
แสงและเงา
เกลันเจโล
การาวัจโจ (มีชีวิตระหว่าง ค.ศ. 1573 – 1610 = พ.ศ. 2116 – 2153 อายุ 37
ปี) จิตรกรชาวอิตาลี แสดงเหตุการณ์ที่พระเยซูคริสต์เรียกร้องให้มัทธิวมาเป็นสาวก
รัศมีของแสงฉายไปที่มัทธิวแต่พระเยซูคริสต์ถูกแสงซ่อนไว้
|
Romanticism
The early 19th
century in Europe is known as the Romantic
Age. It was, in part, a reaction to
18th-century art, which had
emphasized balance and order. Romantic
artists questioned the place of human
beings in the Universe. They stressed the importance of human emotion and the imagination,
and celebrated the wild power of nature in
dramatic landscape paintings.
|
ศิลปะจินตนิยม
ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ในทวีปยุโรปเป็นที่ทราบกันว่าเป็นยุคโรแมนติก
(หรือยุคจินตนิยม) บางส่วน
เป็นปฏิกิริยาต่อศิลปะยุคศตวรรษที่ 15
ซึ่งเน้นความสมดุลและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ศิลปินยุคโรแมนติกมีความสงสัยสถานะของมนุษย์ในจักรวาล
พวกเขาเน้นความสำคัญอารมณ์ของมนุษย์และการจินตนาการ ตลอดจนกล่าวสรรเสริญอำนาจป่าเถื่อนของธรรมชาติในการเขียนภาพทิวทัศน์อันน่าทึ่ง
|
||||
Friedrich, Wanderer among the Mists, 1818
|
|||||
The lonely universe
The German artist
Caspar David Friedrich (1774-1840) was spiritually inspired by natural
landscapes. There is an intense mysticism
to this painting, as a solitary figure contemplates the
mighty Alps.
|
จักรวาลอันโดดเดี่ยว
แคสปาร์ เดวิด ฟรีดริช (มีชีวิตระหว่าง
ค.ศ. 1774 – 1840 = พ.ศ. 2317 – 2383 อายุ 66 ปี) ได้รับแรงบันดาลใจจากทิวทัศน์ทางธรรมชาติ
มีภาพลวงตาที่ลึกลับในภาพนี้ เป็นภาพโดดเดี่ยวที่มองเห็นเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่
|
Change in the 19th
century
From the mid-19th century, artists broke with the
tradition established by earlier generations. Where they were once told what to
depict by patrons, who paid them, they now produced what
they wanted, and then tried to sell their work.
|
การเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่
19
ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 เหล่าศิลปินได้ทำลายประเพณีที่ศิลปินรุ่นก่อน
ๆ สร้างขึ้น ณ ที่ใดศิลปินเคยได้รับการเจรจาไว้ว่า ภาพใดที่ผู้อุดหนุนบรรยายภาพให้เห็น
และจ่ายเงินให้ศิลปินได้ ปัจจุบันนี้ศิลปินก็จะผลิตภาพที่ผู้อุดหนุนต้องการและพยายามที่จะขายผลงานของตนเอง
|
||||
Camille Pissarro, Place
du Theatre Francais, 1898
|
|||||
Impressionism
This
school of painting grew up in France in the late 19th century. Artists
such as Camille Pissarro (1830-1903),
Claude Monet (1840-1926), and
Auguste
Renoir (1841-1919) painted their impressions of a brief moment in time, in particular, the
changing effects of sunlight. They
were criticized
at
first, for viewers expected paintings to look more
detailed, but have been very influential.
|
ลัทธิประทับใจ หรือ อิมเพรสชันนิซึม
โรงเรียนภาพวาดแห่งนี้เจิรญเติบโตขึ้นมาในฝรั่งเศสในปลายศตวรรษที่ 19 ศิลปินเช่น กามีย์ ปีซาโร (Camille
Pissarro มีชีวิตระหว่าง ค.ศ. 1830-1903 = พ.ศ. 2373 – 2446 อายุ 73 ปี), โกลด มอแน (Claude
Monet มีชีวิตระหว่าง ค.ศ. 1840-1926 = พ.ศ. 2383 – 2469 อายุ 86 ปี) และ โอกุสต์ เรอนัวร์ (Auguste
Renoir มีชีวิตระหว่าง
ค.ศ. 1841-1919 = พ.ศ. 2384 – 2462
อายุ 78 ปี) ได้เขียนความประทับใจแห่งช่วงเวลาสั้น ๆ ของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่เปลี่ยนแปลงไปของแสงแดด
พวกเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ในตอนแรก เนื่องจากผู้ชมมีความคาดหวังว่าภาพวาดน่าจะมองดูมีรายละเอียดมากขึ้น
แต่มีอิทธิพลมาก
|
20th-century
art
During the 20th
century, artists explored new theories about the world,
religion, and the mind. They asked
the public to confront things that they might wish to ignore, and explored many different styles. After nearly 2,500 years, the grip of
Classical art seemed to have been broken.
|
ศิลปะแห่งศตวรรษที่
20
ในช่วงศตวรรษที่ 20
ศิลปิน ได้สำรวจทฤษฎีใหม่ ๆ เกี่ยวกับโลก ศาสนาและจิตใจ พวกเขาขอร้องให้ประชาชนเผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ
ที่พวกเขาอาจจะต้องการเพิกเฉยและสำรวจรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย เกือบ 2,500 ปีผ่านไป
ความเข้าใจศิลปะในยุคคลาสสิกดูเหมือนจะถูกทำลาย
|
||||
Surrealism
During
the 1920s, the fantastical art made
by the Surrealists explored theories about
the way the brain works. New ideas had suggested that people consciously only used a tiny part
of their brains, and that they were unaware of subconscious activity, over which they
had no rational control. The
bizarre, dreamlike paintings of Surrealists,
such as the Spanish artist Salvador Dali (1904-89),
were inspired by these ideas.
|
ลัทธิเหนือจริง
หรือ เซอร์เรียลลิซึม
ในช่วงศตวรรษที่ 1920 ศิลปะอันมหัศจรรย์ที่ศิลปินผู้เลื่อมใสลัทธิเหนือจริงสร้างขึ้นโดยการสำรวจทฤษฎีเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสมอง
แนวความคิดใหม่ ๆ ได้ชี้ให้เห็นว่าผู้คนใช้สมองของตนเองเพียงส่วนเล็ก ๆ
เท่านั้นและพวกเขาก็ไม่รู้ตัวว่าจิตใต้สำนึกของตนเองทำงานอยู่ ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีการควบคุมจิตใต้สำนึกนั้นอย่างมีเหตุผล
ภาพจิตรกรรมที่แปลกประหลาด งดงามเหมือนฝันของเหล่าศิลปินผู้เลื่อมใสลัทธิเหนือจริง
เช่น ซัลบาโด ดาลี (Salvador
Dali มีชีวิตระหว่าง ค.ศ. 1904-89 = พ.ศ. 2447 – 2532 อายุ 85 ปี)
ศิลปิน ชาวสเปน ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวความคิดเหล่านี้
|
||||
Abstract art
Abstract artists do
not represent objects from the everyday world. Colour and shape alone suggest ideas or
emotions. In this way, abstract art
is like music: neither describe
anything that can be defined in words, but both can be expressive and moving. The artists Jackson Pollock (1912-56) and Mark Rothko (1903-70) are two of the most famous abstract painters.
|
Jackson Pollock, The Moon, Woman cuts the circle, 1943
|
ศิลปะนามธรรม
ศิลปินผู้เขียนภาพทางนามธรรมไม่ได้ใช้วัตถุจากโลกแห่งชีวิตประจำวันมาเป็นตัวแทน
สีและรูปร่างเพียงอย่างเดียวแนะนำแนวความคิดหรืออารมณ์ ด้วยวิธีนี้ศิลปะนามธรรมจึงคล้ายกับดนตรี
ซึ่งไม่สามารถอธิบายสิ่งใด ๆ ที่สามารถนิยามได้ด้วยคำพูด
แต่ทั้งสองสามารถแสดงออกและเคลื่อนไหวได้ ศิลปินเหล่านั้น คือ แจ็กสัน
พอลล็อก (Jackson Pollock มีชีวิตระหว่าง ค.ศ. 1912-56 = พ.ศ. 2455 – 2499 อายุ 44 ปี) และ มาร์ก
รอทโก (Mark Rothko มีชีวิตระหว่าง ค.ศ. 1903-70 = พ.ศ. 2446 – 2513 อายุ 67 ปี) คือ ศิลปิน
จำนวน 2 คน ในบรรดาจิตรกรรมผู้เขียนภาพทางนามธรรมทั้งหลายที่มีชื่อเสียงที่สุด
|
|||
Modern
art
Much
modern art is specially created to be seen in a museum or gallery, and not
for houses, palaces, or churches as in the past. It often prefers to baffle,
tease, and provoke its audience, rather than make its meaning obvious.
|
Yoki Terauchi, Air
Castle, 1994
|
ศิลปะสมัยใหม่
ศิลปะสมัยใหม่มากมายสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้ดูได้เฉพาะในพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์
และไม่ใช่สร้างขึ้นไว้สำหรับบ้าน พระราชวังหรือโบสถ์เช่นเดียวกับในอดีต มักจะชอบทำให้เกิดความยุ่งเหยิง
หยอกล้อและกระตุ้นผู้ชม แทนที่จะทำให้ความหมายชัดเจน
|
|||
Ambroise Vollard
The French art dealer
Ambroise Vollard (1865-1939) made a living buying,
selling, and exhibiting modern art. He
gave early 20th-century artists
unprecedented financial and creative freedom to paint as they wished. Artists such as Paul Cezanne and Henri Matisse achieved
success in Vollard's gallery in Paris in the 1900s.
|
อองบร็วส
โวลลารด์
ผู้ประกอบกิจการซื้อขายงานศิลปะชาวฝรั่งเศส
ชื่อ อองบร็วส โวลลารด์ (Ambroise
Vollard มีชีวิตระหว่าง ค.ศ. 1865-1939 = พ.ศ. 2408 – 2482 อายุ 74 ปี) ได้ทำการซื้อขายและจัดแสดงศิลปะสมัยใหม่
เขาให้เสรีภาพทางการเงินและการสร้างสรรค์ในการวาดภาพตามปรารถนาแก่ศิลปินยุคต้นศตวรรษที่
20 ศิลปิน เช่น ปอล เซซาน (Paul Cezanne) และ
อ็องรี มาติส (Henri Matisse)ประสบความสำเร็จในห้องแสดงผลงานศิลปะของโวลลารด์ ในกรุงปารีสในศตวรรษที่
1900
|